ทำความรู้จักภาวะดื้ออินซูลินให้ดีก่อนเป็นโรคเบาหวาน

ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต ทั้งในเรื่องอาหารการกินที่เย้ายวนใจหลากหลายชนิดสวนทางกับเวลาออกกำลังกายที่มีอันน้อยนิดหรือแทบจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย ทำให้คนไทยเป็นโรคอ้วนลงพุงสูงขึ้น ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในจำนวนนี้ เริ่มมีภาวะดื้ออินซูลิน ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน รวมทั้งไขมันในเลือดผิดปกติ
ทำไมถึงป่วยเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่องและเรื้อรัง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน เนื่องจากเมื่อรับประทานอาหารเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หลังจากนั้นร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินและนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ โดยคนที่เป็นโรคเบาหวาน แบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามกลไกหลักที่พบบ่อย ได้แก่
- ตับอ่อนผลิตอินซูลินน้อยเกินไป หรือไม่ผลิตเลย (เบาหวานชนิดที่ 1) ส่วนใหญ่จะพบมากในกลุ่มเด็กหรือผู้ที่มีอายุน้อย
- ร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance) (เบาหวานชนิดที่ 2) ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน ซึ่งเบาหวานชนิดที่ 2 จะพบได้บ่อยที่สุด
ทำความรู้จักอินซูลิน
ก่อนที่เราจะรู้ถึงภาวะดื้ออินซูลินเป็นอย่างไร มาทำความรู้จักกันก่อนว่าอินซูลินคืออะไร ‘อินซูลิน’ เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน มีหน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ปกติ จะหลั่งออกมามากหลังรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมากกว่าช่วงก่อนอาหาร เมื่อเรารับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ อาหารประเภทแป้ง ข้าวทุกชนิด และผลิตภัณฑ์จากข้าว น้ำตาลทุกชนิด จะทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้เร็ว และจะเป็นตัวกระตุ้นให้มีการหลั่งอินซูลินออกมาจากตับอ่อน เพื่อควบคุมให้ระดับน้ำตาลลดลงสู่ปกติ
ภาวะดื้ออินซูลิน เป็นอาการเมื่อร่างกายผลิตอินซูลินได้มากมาย แต่อินซูลินที่ออกมานั้นกลับไม่สามารถทำงานได้นั่นเอง ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจาก เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย อาทิ เซลล์ในกล้ามเนื้อ ไขมัน และตับไม่ตอบสนองต่อการทำงานของเจ้าอินซูลิน (Down regulation of Insulin receptor) เมื่อเวลาผ่านไป ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้น กลุ่มอาการดื้อต่ออินซูลินรวมถึงกลุ่มของปัญหา เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และพบบ่อยมากในคนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หากคุณมีภาวะดื้อต่ออินซูลินและกำลังรับประทานอินซูลิน คุณจะต้องได้รับอินซูลินในปริมาณที่สูงกว่าโดยมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเท่ากัน ตัวอย่างเช่น:
- คาร์โบไฮเดรต 1 หน่วยถึง 10 กรัม = ความไวที่สูงขึ้น
- คาร์โบไฮเดรต 1 หน่วยถึง 5 กรัม = (ทนต่ออินซูลิน) ความไวลดลง
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ ทั้งโรงพยาบาลและคลินิก มักใช้การตรวจเลือดที่เรียกว่าไกลเคเตตฮีโมโกลบิน (A1c) เพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวาน โดยจะแสดงระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยของคุณในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยทั่วไป:
- ระดับ A1c ต่ำกว่า 5.7% ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
- ระดับ A1c ระหว่าง 5.7% ถึง 6.4% ถือเป็นภาวะก่อนเบาหวาน
- ระดับ A1c 6.5% หรือสูงกว่าในการทดสอบแยกกันสองครั้ง บ่งชี้ว่าเป็นโรคเบาหวานประเภท 2
- ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 มักจะมีระดับ A1C สูงมากและมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเมื่อได้รับการวินิจฉัย เนื่องจากตับอ่อนผลิตอินซูลินน้อยมากหรือไม่มีเลย ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุของภาวะดื้ออินซูลิน
- โรคอ้วน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้องที่ไม่ได้ใช้งาน และรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง
- ผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
- สภาวะสุขภาพ เช่น โรคไขมันพอกตับที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และกลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ
- มีอายุมากขึ้นหลังจาก 45 ปี ซึ่งเป็นธรรมชาติของร่างกายที่จะมีความดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น จึงมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น Cushing's syndrome และ Acromegaly ยาเช่นสเตียรอยด์ ยารักษาโรคจิต และยารักษา HIV
- ภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดการดื้อต่ออินซูลิน
สัญญาณเตือนจากร่างกายเมื่อเข้าสู่ภาวะดื้ออินซูลิน
- รอบเอวมากกว่า 40 นิ้วในผู้ชาย และ 35 นิ้วในผู้หญิง อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับได้
- ค่าความดันโลหิตที่อ่านได้ 130/80 หรือสูงกว่า ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจประเมินความผิดปกติที่เกิดขึ้นต่ออวัยวะภายในร่างกายจากโรคความดันโลหิตสูง และตรวจความเสี่ยงโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารมากกว่า 100 มก./ดล มีความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน แพทย์อาจแนะนำในด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การคุมอาหาร ลดน้ำหนัก และออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการเป็นเบาหวานในอนาคต
- ระดับไตรกลีเซอไรด์หลังอดอาหารมากกว่า 150 มก./ดล ซึ่งไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) เป็นไขมันซึ่งร่างกายได้รับจากอาหารโดยตรงหรือร่างกายสร้างขึ้น เมื่อรับ
- ประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป โดยพลังงานส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ และสะสมเป็นเนื้อเยื่อไขมันตามส่วนต่าง ๆ
- ระดับ HDL คอเลสเตอรอลต่ำกว่า 40 มก./ดล. ในผู้ชาย และ 50 มก./ดล. ในผู้หญิง โดยระดับ HDL-C คอเลสเตอรอล (HDL-C คือ คอเลสเตอรอลในอณูไขมันและโปรตีนความหนาแน่นสูง) ควรมากกว่า 40 มก/ดล เพราะ HDL คือ ไขมันดี
- แท็กสกินรอยปื้นของผิวสีเข้มและอ่อนนุ่มที่เรียกว่า acanthosis nigricans เป็นภาวะที่ผิวหนังบริเวณรอยพับร่างกายเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและผิวหนังหนาขึ้นกว่าปกติ มักพบบริเวณใต้รักแร้ คอ หรือขาหนีบ พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ที่มีโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน และเด็กที่มีความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2.
ภาวะดื้ออินซูลิน ไม่มีวิธีป้องกันได้โดยตรง แต่สามารถปรับพฤติกรรมของตัวเอง จะช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินและป้องกันโรคเบาหวานได้ ดังนี้
- การออกกำลังกาย จะช่วยเคลื่อนย้ายน้ำตาลเข้าสู่กล้ามเนื้อเพื่อกักเก็บ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที ในช่วง 3-5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งวิธีแก้ดื้ออินซูลินด้วยการออกกำลังกายจะช่วยส่งเสริมความไวของอินซูลินเพิ่มขึ้นได้ทันที
- ขจัดความเครียด เพราะความเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียดของคุณอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะกระตุ้นการสลายสารอาหารและเพิ่มน้ำตาลในเลือด โดยการศึกษาพบว่าฮอร์โมนความเครียดในระดับสูงยังช่วยลดความไวของอินซูลินลง
- การลดน้ำหนักลดลง โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ดื้ออินซูลิน เพราะการมีน้ำหนักที่มากเกิดจนไป จะช่วยลดความไวของอินซูลินและเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2
- การลดน้ำหนักด้วยสูตรลดน้ำหนัก if (Intermittent Fasting) หรือการอดอาหารเป็นช่วงๆ ในช่วงเวลาที่อดอาหาร (Fasting) ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ลดลง ส่งผลให้การเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดไปเป็นไขมันลดลง ซึ่งจะช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน
- เลือกทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง อาทิ ผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเปลือกแข็ง ปลา พืชตระกูลถั่ว หรืออาหารเสริมที่มีไฟเบอร์ชนิดพิเศษช่วยลดน้ำตาลและอินซูลิน ไบออสไลฟ์เอสและยูนิมาเต้ แก้อาการเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือดสูง ลดภาวะดื้ออินซูลิน
- ลดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้าไปในร่างกาย และเลือกทานน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูง เพราะจะช่วยเพิ่มความต้านทานต่ออินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
- ทางเลือกใหม่ทานอาหารเสริม เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ดื้ออินซูลิน ซึ่งปัจจุบันมีอาหารเสริมหลายชนิดสามารถช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินได้ รวมถึงการทานวิตามินซี โปรไบโอติก และแมกนีเซียม
- การใช้ยา แพทย์อาจให้ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) ซึ่งช่วยยับยั้งการปล่อยกลูโคสจากตับเข้าสู่กระแสเลือด และกระตุ้นความไวต่ออินซูลินโดยทำให้เซลล์ในร่างกายนำกลูโคสไปใช้เพิ่มขึ้น จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และลดการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนหรือภาวะดื้ออินซูลิน
หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงสุขภาพของคุณ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะดื้ออินซูลิน ความเครียดสะสม อาการเบาหวาน ไขมันในเส้นเลือดสูง หรือความดันสูง MAEWfeelgreat ช่วยคุณให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แนะนำวิธีแก้ดื้ออินซูลิน ด้วยการเลือกทานสิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฟเบอร์ช่วยลดน้ำตาลและอินซูลินที่ปลอดภัยที่มีผลงานวิจัยรับรอง และการแนะนำการทานอาหารที่ถูกต้อง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MAEWfeelgreat ติดต่อ




